หนังสือ ใช้เงินน้อยกว่าแต่รวยก่อน : The $100 Startup ตอบโจทย์เหล่านี้
→ อยากเป็นเจ้านายตัวเองทำยังไงดี
→ อยากหารายได้ทำยังไงดี
สวัสดีครับ ผมจี้ ในบทความนี้จะมาสรุปหนังสือ ใช้เงินน้อยกว่าแต่รวยก่อน : The $100 Startup
เป็นหนังสืออ่านง่าย บอกวิธีสร้างรายได้พอๆกับตอนที่คุณทำงานประจำ โดยการทำธุรกิจขนาดย่อม
สรุป
→ หาจุดร่วมระหว่างความชอบ กับสิ่งที่คนอื่นให้ความสนใจ
→ คุณค่า = การแก้ปัญหาให้คนอื่น
→ คนเราต่างต้องการบางอย่างมากขึ้น และบางอย่างน้อยลง
→ ขายสิ่งที่ลูกค้าอยากซื้อ
→ ไม่จำเป็นต้องมีแผนอย่างเป็นทางการ สำหรับธุรกิจขนาดย่อม ให้เริ่มลงมือทำก่อน และเรียนรู้จากมัน
จะขอแบ่งเป็น2ส่วนเพื่อเข้าใจมากยิ่งขึ้น
① เข้าใจการหารายได้ และวางแผน
② ลงมือทำให้เป็นรูปเป็นร่าง
ไปอ่านกันได้เลย
① เข้าใจการหารายได้ และวางแผน
การเริ่มธุรกิจ คุณจำเป็นต้องมี3สิ่ง
① ผลิตภัณต์หรือบริการ
→ สิ่งที่คุณขาย
② กลุ่มเป้าหมายที่จะจ่ายเงิน
→ ลูกค้าของคุณ
③ วิธีที่จะได้เงิน
→ คุณจะเปลื่ยนสินค้าหรือบริการเป็นเงินได้อย่างไร
ถ้าคุณมีกลุ่มเป้าหมายแต่ไม่มีอะไรจะขายให้ ยังถือว่าไม่ใช่ธุรกิจ
ถ้าคุณมีสินค้าหรือบริการจะขาย แต่ไม่มีใครซื้อ ยังถือว่าไม่ใช่ธุรกิจ
และถ้าไม่มีวิธีที่ชัดเจนและง่ายในการซื้อสินค้าหรือบริการของคุณ ให้ลูกค้า ยังถือว่าไม่ใช่คุณธุรกิจ
หาจุดที่สมดุลระหว่าง สิ่งที่คุณชอบ และสิ่งที่คนอื่นให้ความสำคัญ
เพราะไม่ใช่ทุกอย่างที่เอามาขายได้ เช่น ผมสามารถเป็นคนชอบกินพิซซาได้ แต่คงไม่ใครสนใจจะจ่ายเงิน
หาทักษะที่เกี่ยวข้องมาช่วย
การที่จะประสบความสำเร็จในธุรกิจ ต้องนึกถึงทักษะที่เกี่ยวข้องซึ่งนำมารวมกันแล้วสามารถช่วยเหลือคนอื่นได้
โดยเฉพาะทักษะที่คุณมี
เช่น ครูไม่เพียงถนัดการสอนเท่านั้น ยังรวมถึง การสื่อสาร การควบคุมคนหมู่มาก วางแผนการสอน
ดังนั้น หาสิ่งที่คุณชอบ ที่มีประโยชน์กับคนอื่นด้วย + นำทักษะที่เกี่ยวข้องมาช่วย ครับ
ขายสิ่งที่ลูกค้าอยากซื้อ
นอกจากตัวของสินค้าและบริการแล้ว ให้โฟกัสที่คุณค่าด้วย
คุณค่าคืออะไร
ในบริบทของเรา คิดง่ายๆคือ คุณค่า = การช่วยเหลือผู้คน
ถามตัวเองว่า ฉันจะสร้างคุณค่ามากขึ้นอย่างไร หรือ ฉันจะช่วยเหลือลูกค้าให้มากขึ้นได้อย่างไร
คุณสมบัติ(Feature) ＆ ประโยชน์ทางด้านอารมณ์ (Benefit)
ทีนี้มาลองดู คุณสมบัติของสินค้าและบริการ กับ ประโยชน์ทางด้านอารมณ์กันบ้าง
| Feature รูปแบบสินค้าและบริการ | Benefit ทางอารมณ์ |
| คอร์ดโยคะ สำหรับผู้หญิงที่ยุ่ง | ผ่อนคลาย |
| ชุดแต่งงานและเครื่องประดับ | รู้สึกพิเศษในวันพิเศษ |
ยิ่งธุรกิจโฟกัสที่ประโยชน์(ทางอารมณ์) แทน คุณสมบัติ ลูกค้าก็ยิ่งมาซื้อ
ประโยชน์หลัก = คุณค่าทางด้านอารมณ์
สิ่งที่ผู้คนต้องการจริงๆ
พูดง่ายๆ คือ คนเราต้องการบางอย่างมากขึ้นและบางอย่างน้อยลง ถ้าธุรกิจคุณโฟกัสเรื่องนี้อยู่ คุณมาถูกทางแล้ว
| มากขึ้น | น้อยลง |
| ความรัก | ความเครียด |
| เงิน | ปัญหา |
| การยอมรับ | ความไม่แน่นอน |
| เวลาว่าง |
เช่น สปาทำให้ความเครียดน้อยลง เสื้อผ้าทำให้คนเรามั่นใจมากขึ้น ครับ
สินค้าและบริการของคุณจะช่วยลูกค้าในเชิงคุณค่าอะไรบ้าง
อย่าลืมขายสิ่งที่ลูกค้าต้องการจริงๆ ไม่ใช่แค่สิ่งที่คุณคิดว่าพวกเขาควรมี
ไม่ใช่ทุก passion หรืองานอดิเรกจะนำมาทำธุรกิจได้
อย่างที่ผู้เขียนได้บอกไว้ว่า ผมชอบกินพิซซา แต่ไม่ว่าผมจะชอบแค่ไหน ก็ชวนสงสัยอยู่ดีว่าผมจะสร้างอาชีพกับมันได้อย่างไร
คุณต้องโฟกัสไปที่ ธุรกิจของคุณว่า ช่วนเหลือผู้คนได้อย่างไร และทำไมพวกเขาต้องให้ความสนใจกับสิ่งที่คุณนำเสนอ
เพราะธุรกิจที่ดีแก้ปัญหาให้คนอื่น
| สิ่งที่ชอบ | ทักษะ | ปัญหา | โอกาส |
| เรียนภาษา | มีประสบการณ์เรียนภาษาและพัฒนาวิธีสอนใหม่ | หลายคนอยากเรียนภาษาแต่เรียนวิธีเดิมไม่ได้ผล | ทำลายกำแพงนั้นและหาวิธีใหม่ |
| ชุดแต่งงานแฮนเมด และเครื่องประดับ | งานทำมือ | เจ้าสาวต้องการอะไรพิเศษ | ทำให้เป็นวันแต่งงานเป็นวันพิเศษขึ้น |
สรุปได้ว่า
สิ่งที่ชอบ + ทักษะ → ปัญหา + ตลาด = โอกาส
กำหนดประชากรศาสตร์(กลุ่มเป้าหมาย)
ลูกค้าของคุณมีบางอย่างที่เหมือนกัน ซึ่งไม่เกี่ยวกับวิธีดั่งเดิมที่ใช้กำหนดกลุ่มลูกค้า
วิธีดังเดิมที่ใช้กำหนด
การกำหนดจาก เพศ พื้นที่ เพศ รายได้
วิธีใหม่ที่ใช้กำหนด
กำหนดจาก ความสนใจ ความชอบ ทักษะ ความเชื่อและคุณค่า
เคยมีโฆษณาหนึ่งที่มีคุณป้า เล่นสเก็ตบอร์ด จริงๆ สเก็ตบอร์ด ก็เป็นกีฬาที่มีภาพลักษณ์ออกแนววัยรุ่น แต่ด้วย ความชอบ ความสนใจ ของคุณป้า ถึงแม้จะเป็นคนอายุมากแล้ว ก็ยังมีอะไรที่คล้ายกับวัยรุ่นอยู่ ซึ่งก็ตรงกับวิธีใหม่ในการกำหนด กลุ่มเป้าหมาย นั้นเองครับ
กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดด้วยวิธีใหม่นี้ คือ กลุ่มคนที่อยากใช้ชีวิตแบบใหม่
จำไว้ว่า หาสิ่งที่ผู้คนต้องการและหาวิธีที่จะช่วยเขา
ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าใช่สิ่งที่กลุ่มเป้าหมายต้องการไหม ลองเข้าไปถามด้วยคำถามเหล่านี้
1.อะไรคือปัญหาใหญ่ที่สุดของคุณกับ……
2.อะไรคือคำถามที่คุณมีกับ…..
3.เราจะช่วยคุณเรื่อง……ได้ยังไง
② ลงมือทำให้เป็นรูปเป็นร่าง
เขียน พันธกิจ140 ตัวอักษร
140ตัวอักษรคือจำนวนที่สามารถเขียนบท twitter ได้
1.คิดถึง สินค้าหรือบริการ กับกลุ่มเป้าหมายคุณ
→ เราจัดหา (สินค้าหรือบริการ) เพื่อ (ลูกค้า)
2.โฟกัสที่ ประโยชน์ทางด้านอารมณ์
→ เราช่วยให้ (ลูกค้า) + ประโยชน์ทางด้านอารมณ์
ทีนี้ลองเขียนใหม่ เช่น
① ถ้าคุณบริการพาสุนัขเดิน
คุณสมบัติก็คือ พาสุนัขเดิน
ประโยชน์ทางด้านอารมณ์ คือ รู้สึกผ่อนคลาย(เพราะไม่ยุ่ง)
→ ฉันช่วยให้ เจ้าของสุนัขที่ยุ่ง(ลูกค้า) รู้สึกผ่อนคลายคลายกังวล(ประโยชน์ด้านอารมณ์)เรื่องสุนัข เมื่อเขาไม่สามารถอยู่กับสุนัขได้ โดยจัดหาบริการ พาสุนัขเดิน(บริการ)
② ถ้าคุณขาย หมวกไหมพรม
คุณสมบัติก็คือ พาสุนัขเดิน หมวกไหมพรมสำหรับใส่
ประโยชน์ทางด้านอารมณ์ คือ สร้างสรรค์
→ ฉันช่วยให้ ลูกค้ารู้สึกถึงความสร้างสรรค์(ประโยชน์ด้านอารมณ์) โดย สอนให้ลูกค้าทำหมวกไหมพรม(บริการ)สำหรับพวกเขาเอง และคนใกล้ตัว
ลงมือทำ
เลือกไอเดียที่จะขายได้
คุณอาจใช้เวลามากเกินไปกับแผนที่ไม่นำไปสู่การลงมือทำ ท้ายที่สุดแล้ว การลงมือทำจะชนะ
คุณไม่มีทางรู้ได้ตลอดว่าไอเดียไหนจะทำเงินหรือไม่ ดังนั้น ลงมือทำให้เร็วที่สุดและหลีกเลี่ยงการใช้เงินมาก
สร้างยอดขายแรกให้ได้เร็วที่สุด
ถามตัวเองว่า คุณจะสร้างยอดขายแรกได้อย่างไร ส่วนการแข่งขันกับบธุรกิจอื่นนั้นมาทีหลัง
ทำการตลาดก่อนการผลิต
จะดีกว่าถ้ารู้ว่ากลุ่มเป้าหมาย ต้องการสิ่งที่คุณนำเสนอหรือไม่ วิธีที่จะรู้ได้คือ เก็บผลสำรวจ (3คำถามก่อนหน้านี้)
ให้แน่ใจว่ามีความต้องการในสินค้าหรือบริการ
เช็คผลลัพท์
หลังจากที่ประสบความสำเร็จในช่วงแรกแล้ว ก็ต้องตัดสินใจต่อว่าอะไรควรทำต่อไป
ในการทำธุรกิขขนาดเล็ก (microbusiness) ต้อง ค่าใช้จ่ายต่ำ ลงมือได้เร็ว ไม่จำเป็นต้องมีแผนอย่างเป็นทางการ
สิ่งที่ต้องมีคือ สินค้าหรือบริการ กลุ่มลูกค้า และวิธีที่จะได้เงิน
นำสินค้าออกสู่ตลาด
การนำสินค้าออกสู่ตลาด เปรียบเสมือนการเปิดตัวของหนัง ฮอลิวูท
ลูกค้าบางคนไม่ได้ตัดสินใจว่าจะดูหนังเรื่องอะไร จนกว่าเขาจะไปโรงหนัง ถ้าพวกเขาได้ยินหนังบางเรื่องล้วงหน้า ก็มีแนวโน้มว่า จะตื่นตัวและบอกเพื่อนๆด้วย ก่อนไปดูหนัง
① ในช่วงก่อนสินค้าออกสู่ตลาด ไม่จำเป็นต้องบอกรายละเอียด ให้เริ่มเกริ่นเช่น
ผมกำลังทำบางอย่างที่น่าสนใจอยู่ มันจะเป็นอะไรที่พิเศษมากถ้าทำเสร็จ แต่ตอนนี้ผมแค่อยากให้คุณรู้ไว้ก่อน
เป้าหมายคือ การค่อยๆสร้าง ความคาดหมาย ว่าจะมีสินค้าหรือบริการใหม่ๆมา
② ต่อด้วย ข้อความว่า ทำไมกลุ่มเป้าหมายต้องสนใจสินค้าหรือบริการนี้ เช่น
นี้คือเหตุผลว่า (สินค้าหรือบริการนี้) จะช่วยคุณ / นี้คือสิ่งที่คุณจะได้รับ / นี้คือเหตุผลว่าทำไมคุณต้องให้ความสนใจ
2ข้อความที่กล่าวมายังอยู่ในขั้นตอน โปรเจท ที่ยังไม่ได้ออกสู่ตลาดจริงๆ
ทำไมโปรเจทนี้ถึงสำคัญ
③ ต่อมาจะเป็นการบอกรายละเอียดมากขึ้น เช่น
จะขายเมื่อไหร่ สินค้าใช้ยังไง ราคาพิเศษสำหรับผู้ที่สั่งก่อนล่วงหน้า
รายละเอียดอะไรที่กลุ่มเป้าหมายควรจะรู้มากที่สุดในตอนนี้ล่ะ?
④ เราใกล้จะเสร็จแล้ว
การนำสินค้าออกสู่ตลาด นี้คือช่วงสุดท้ายในการย้ำว่า ทำไมสำคัญ รวมถึงรายละเอียดการออกขาย
เป้าหมายคือ เปลี่ยนความคาดหมาย เป็นการตัดสินใจซื้อ
⑤ สินค้าและบริการ ออกมาแล้ว
ถ้าคุณทำขั้นตอนก่อนการนำออกสู่ตลาดได้ดี กลุ่มลูกค้าจะเตรียมตัวมาบริการหรือซื้อของๆคุณอยู่แล้ว
แล้วถ้าฉันทำพลาดล่ะ?
อุปสรรคภายนอกเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่การเอาชนะอุปสรรคภายใน(ความกลัว)เป็นเรื่องสำคัญ
เรากลัวอะไร
ความกลัวส่วนใหญ่จะแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ ภายนอกและภายใน
ภายนอก เช่น การเปลี่ยนแปลงของตลาด
ภายใน เช่น คำถามที่ว่า ถ้าเกิดสิ่งที่ฉันรักไม่สนุกอีกแล้วล่ะ
บนเส้นทางสู่อิสระภาพ คุณอาจเจอกับความผิดพลาด อย่างน้อย 1 อย่าง
เราเรียนรู้จากความผิดพลาด และทำต่อไปครับ
และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ อย่าเสียเวลากับสิ่งที่คนอื่นคิดกับคุณ
สุดท้าย
เป็นยังไงกันบ้าง กับ ใช้เงินน้อยกว่าแต่รวยก่อน
ผมเริ่มหาหนังสือที่เป็น How to ไว้สร้างรายได้ ก็มาเจอกับหนังสือเล่มนี้พอดี ต้องบอกว่าเข้าใจง่ายและตรงจุด เหมาะกับคนที่อยากเริ่มทำธุรกิจเล็กๆไปต่อยอดในอนาคต
ผมเรียนรู้วิธีหาจุดลงตัวระหว่าง (สิ่งที่เรารู้ กับ สิ่งที่คนอื่นให้ความสนใจ) + การแก้ปัญหาให้คนอื่น = รายได้
แล้วเพื่อนๆล่ะ ได้เรียนรู้อะไรบ้าง และจะเอาไปใช้กับตัวได้อย่างไรครับ
