หนังสือ atomic habit เพราะชีวิตดีได้กว่าที่เป็น เล่มนี้ตอบโจทย์คำถามเหล่านี้
→ ฉันจะสร้างนิสัยที่ดีได้ยังไง
→ ฉันจะเลิกนิสัยที่ไม่ดีได้ยังไง
คุณได้สวัสดีครับ ผมจี้ ในบทความนี้ผมจะมาสรุป atomic habit ซึ่งเป็นหนังสือเขียนโดยผู้เชี่ยวชาญด้านนิสัยระดับโลก jame clear
สรุป atomic habit
→ นิสัยคือดอกเบี้ยที่สะสมจากการพัฒนาตนเอง สร้างนิสัยให้ดีขึ้นวันละ1เปอร์เซนต์ มีผลต่อผลลัพท์อันยิ่งใหญ่ระยะยางในอนาคต
→ การเปลื่ยนแปลงพฤติกรรม ต้องเริ่มจาก
ความเชื่อ → กระบวนการ → ผลลัพท์
มีกฏง่ายๆที่ถ้าทำแล้ว คุณก็สามารถสร้างนิสัยที่ดี นั้นคือ
- ทำให้ชัดเจน (เห็นได้ชัด)
- ทำให้น่าดึงดูดใจ (อยากทำ)
- ทำให้เป็นเรื่องง่าย (ง่ายอยากทำต่อ)
- ทำให้น่าพึงพอใจ (เห็นผลลัพท์)
และเลิกนิสัยที่แย่ได้
- ทำให้ไม่ชัดเจน (เห็นไม่ชัด)
- ทำให้ไม่น่าดึงดูดใจ (ไม่อยากทำ)
- ทำให้ไม่เป็นเรื่องง่าย (ยากไม่อยากทำต่อ)
- ทำให้ไม่น่าพึงพอใจ (ไม่เห็นผลลัพท์)
จะขอแบ่งเป็น2หัวข้อใหญ่ๆ สำหรับการสรุปดังนี้
1.แนวคิดพื้นฐานเรื่องนิสัย
2.กฏ4ข้อ (วิธีสร้างนิสัยดี และเลิกนิสัยไม่ดีง่ายๆ)
เหมาะกับคนที่
→ ต้องการเปลื่ยนนิสัยตนเองให้ดีขึ้น
→ ต้องการลดนิสัยที่แย่ลง
→ ศึกษานิสัยของมนุษย์
อ่านแล้วได้อะไร
→ รู้เทคนิคที่สามารถปรับเปลื่ยนนิสัยได้ง่ายๆ
→ เข้าใจผลลัพท์จากการเปลื่ยนแปลงนิสัย
ไปอ่านกันได้เลยครับ
1.แนวคิดพื้นฐานเรื่องนิสัย
พลังอันน่าพิศวงของนิสัยเล็กๆนิสัยคือดอกเบี้ยที่สะสมจากการพัฒนาตนเอง การสร้างนิสัยที่ดีขึ้น 1 เปอร์เซนต์ในทุกๆวัน จะสะสมเป็นผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ในอนาคตระยะยาว
การปรับปรุงให้ดีขึ้นเพียง1เปอร์เซ็นต์ กลับดูไม่มีความสำคัญ หรือบางครั้งก็แทบจะไม่มีใครสังเกตเห็น แต่มันกลับมีคุณค่าเกินกว่าที่ใครจะนึกถึง
เปรียบเทียบ → ถ้าคุณเรียนภาษาจีนวันละ 1ชั่วโมง คุณก็คงจะยังพูดภาษาจีนไม่ได้ แต่ถ้าเรียนทุกวัน วันละ1ชั่วโมง (โดยอาจเพิ่มเวลาเรียนเข้าไปเรื่อยๆ เช่น 10นาที)1ปี คุณก็คงจะพูดได้บ้างแล้ว สร้างนิสัยที่ดีแบบนี้ไปเรื่อยๆ ผลลัพท์ที่ออกมาจะเริ่มเห็นได้ชัดขึ้น
ถ้าคุณต้องการผลลัพธ์ที่ดีกว่า
จงลืมเรื่องการกำหนด เป้าหมาย และหันมาให้ความสำคัญกับ กระบวนการแทน ความคิดที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังเป้าหมายคนเราคือ เมื่อฉันบรรลุเป้าหมายแล้วฉันถึงจะมีความสุข
ปัญหาคือ คุณกำลังผลักไสความสุขออกห่างจากตัวเองไปเรื่อยๆ จนกว่าคุณจะไปถึงเป้าหมาย เป้าหมายยังสร้างความขัดแย้งที่ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
นั่นคือ ถ้าคุณไม่บรรลุเป้าหมายและประสบความสำเร็จแล้วละก็ คุณก็ต้องล้มเหลวและผิดหวัง กระบวนการเปรียบเสมือน ยาถอนพิษทางใจให้คุณ
เมื่อไรที่คุณมีความสุขกับกระบวนการ แทนที่จะเป็น ผลลัพธ์ คุณจะมีความสุขได้ตลอดเวลาเปรียบเทียบ
→ ถ้าคุณจะลดน้ำหนักให้ได้ เดือนละ3กิโล ก็ให้โฟกัสที่กระบวนการนั้นคือ การออกกำลังกาย แทนที่จะมุ่นอยู่กับว่า ฉันลดได้หรือไม่ พอคุณ โฟกัสและมีความสุขกับการออกกำลังกาย ผลลัพท์ย่อมตามมาแน่นอนครับ
เปรียบเทียบ → ถ้าคุณเป็นนักธุรกิจ เป้าหมายของคุณอาจเป็นการสร้างธุรกิจมูลค่าหลายล้าน กระบวนการคือ วิธีที่คุณทดลองไอเดีย ผลิตสินค้า จ้างพนักงาน และทำการตลาด
นิสัยกำหนดความเป็นตัวตนการเปลื่ยนแปลงพฤติกรรม 3 ระดับ
1.การเปลื่ยนแปลงระดับผลสัมฤทธิ์เป้าหมาย
ส่วนใหญ่ที่คุณตั้งไว้ มักเกี่ยวข้องกับการเปลื่ยนแปลงในระดับนี้ เช่น ลดน้ำหนัก การได้เป็นแชมเปี้ยน
2.การเปลื่ยนแปลงในระดับกระบวนการ (เปลื่ยนแปลงการกระทำ)
เช่น การไปออกกำลังกาย
3.การเปลื่ยนแปลงในระดับอัตลักษณ์ (เปลื่ยนแปลงความเชื่อ)
คือ การเปลื่ยนแปลงความเชื่อ การมองโลก ภาพลักษณ์ที่มีต่อตัวเองคนส่วนมากเมื่อแทบไม่คิดถึงการเปลื่ยนแปลงอัตลักษณ์ของตัวเอง ในตอนแรกพวกเขาเริ่มตั้งเป้าว่าจะเปลื่ยนแปลงตัวเอง
พวกเขาแค่คิดว่า ฉันอยากผอม (ผลสัมฤทธิ์) ถ้าลดความอ้วนอย่างจริงจังแล้วฉันจะผอม(กระบวนการ)
พวกเขาตั้งเป้าหมายเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้น โดยไม่ได้คำนึงถึงความเชื่อที่ผลักดันให้เกิดการกระทำนั้นนี้เรียกว่า
นิสัยอิงผลสัมฤทธิ์ (ผลสัมฤทธิ์ → กระบวนการ → ความเชื่อ)
แต่การที่เราจะเปลื่ยนแปลงนิสัยเพื่อให้ได้ผลลัพท์ที่แท้จริงนั้น เราต้องเริ่มจากความเชื่อก่อนครับ นี้เรียกว่า
นิสัยอิงอัตลักษณ์ (ความเชื่อ → กระบวนการ → ผลสัมฤทธิ์)
การเปลื่ยนแปลงพฤติกรรม
คือ การเปลื่ยนแปลงตัวตน นิสัยนั้นต้องกลายเป็นส่วนหนึ่งของความเป็นคุณ ใครๆก็โน้มน้าวตัวเองให้ออกกำลังกายหรือกินอาหารบำรุงสุขภาพได้ในบางครั้งบางคราว แต่ถ้าคุณไม่เปลื่ยนความเชื่อที่อยู่เบื้องหลังพฤติกรรมนั้น ก็เป็นเรื่องยากที่จะเกิดการเปลื่ยนแปลงต่อเนื่องในระยะยาว
→ เป้าหมายไม่ใช่การอ่านหนังสือ แต่คือ การกลายเป็นนักอ่าน
→ เป้าหมายไม่ใช่ การวิ่งมาราทอน แต่คือ การกลายเป็นนักวิ่ง
→ เป้าหมายไม่ใช่การเรียนดนตรี แต่คือการกลายเป็นนักดนตรีเช่น
→ เมื่อคุณจัดเตียงนอนทุกวัน คุณกำหนดตัวเองให้เป็นคนมีระเบียบ
→ เมื่อคุณเขียนหนังสือทุกวัน คุณกำลังกำหนดตัวเองให้เป็นคนมีความคิดสร้างสรรค์ เมื่อคุณมองว่าการกระทำใดเป็นส่วนหนึ่งของคุณแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องพยายามโน้มน้าวตัวเองเพื่อให้นิสัยที่ดีทำได้ต่อเนื่องระยะยาว
มาเริ่มเปลื่ยนจากความเชื่อกันก่อน ตามด้วย กระบวนการ และผลลัพท์ครับ
วงจรนิสัย
→ ปัจจัยกระตุ้น
→ ความปรารถนาการ
→ ตอบสนอง
→ รางวัล
เช่น
→ โทรศัพท์เสียงดังขึ้น (ปัจจัยกระตุ้น)
→ อยากรู้ว่ามีอะไร(ความปรารถนา)
→ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู (การตอบสนอง)
→ รับรู้(รางวัล)
กฏ4ข้อต่อไปนี้เกี่ยวข้องกับวงจรนิสัยครับ
กฏ 4 ข้อเพื่อสร้างนิสัยที่ดี และเลิกนิสัยที่ไม่ดี
กฏข้อที่1 ทำให้ชัดเจน
กฏข้อที่1 ทำให้ชัดเจน (ปัจจัยกระตุ้น) | วิธีการสร้างนิสัยดี |
1.1 ประเมินนิสัยประจำวัน เขียนรายงานประจำวันว่าคุณทำอะไรบ้าง เช่น ตื่นนอน ปิดนาฬิกาปลุก เช็กโทรศัพท์ ไปห้องน้ำ เป็นต้น จากนั้นให้ใส่เครื่องหมาย จากนั้นให้ใส่เครื่องหมาย (+)ถ้าเป็นนิสัยที่ดี (-)ถ้าเป็นเป็นนิสัยที่ไม่ดี (=)ถ้าเป็นนิสัยกลางๆ ตื่นนอน (=) ปิดนาฬิกาปลุก(=) เช็กโทรศัพท์(-) ไปห้องน้ำ (=) เพื่อให้คุณตระหนักถึงนิสัย ชัดเจนขึ้นบันทึกนิสัยประจำวันเอาไว้เพื่อให้เรามีสติยิ่งขึ้น | |
1.2 ฝึกใช้ความมุ่งมั่นสู่ความสำเร็จที่ว่า ฉันจะทำ เวลา……ณ….. (ปัจจัยกระตุ้น) | คนที่วางแผนไว้ชัดเจนว่าเมื่อไนและที่ไหนจะทำนิสัยใหม่ๆ นั้นมีแนวโน้มจะทำตามแผนมาลองกำหนดกันดูครับว่า ฉันจะทำ….ในเวลา….ณ……เช่น ฉันจะ ออกกำลังกาย ในเวลา 18.00 ณ ยิม และให้ลงมือทำตามนั้น |
1.3 ใช้หลักการต่อยอดนิสัยที่ว่า หลังจากทำ …..แล้วฉันจะทำ… (ต่อยอดนิสัย)โดยรวมแล้ว | การต่อยอดนิสัยทำให้คุณสร้างกฏง่ายๆที่นำไปสู่พฤติกรรมในอนาคต เช่น หลังจากที่ฉันกินอาหารเย็นแล้ว ฉันจะล้างจานทันที |
1.4ออกแบบสิ่งแวดล้อมของคุณ ทำให้ปัจจัยกระตุ้นนิสัยดีมีความชัดเจนและมองเห็นได้ | ถ้าคุณอยากจำได้ว่าต้องกินยาทุกคืน ลองวางขวดยาถัดจากก๊อกน้ำ ถ้าอยากฝึกเล่นกีต้าร์ให้บ่อยขึ้น ให้วางกีตาร์ไว้บริเวณกลางห้องนั่งเล่น การวางของให้เราสังเกตุเห็น คือการทำให้ชัดเจน(ปัจจัยกระตุ้น) ซึ่งนำไปสู่การลงมือทำครับ |
วิธีการเลิกนิสัยไม่ดี | |
1.5 ลดการมองเห็นหรือสัมผัสปัจจัยกระตุ้นนิสัยไม่ดี กำจัดปัจจัยเหล่านั้นออกจากสิ่งแวดล้อมของคุณ | เช่น ถ้าไม่อยากใช้โน็ตบุคนานๆ ให้เอาปลั๊กชาจไปเก็บไว้ที่อื่นๆ ผมได้ลองเอาเทคนิคนี้ไปใช้ดู เพื่อลดการเล่นเกมส์บนคอมพิวเตอร์ โดยการนำไอคอนเกมส์ไปเก็บไว้ในโฟลเดอร์ ให้มองไม่เห็น ผลปรากฏว่า ใช้ได้ผลจริงๆครับ เพราะเราขี้เกียจคลิกเข้าไปหา ก็เลยหันไปทำอย่างอื่นแทน |
กฏข้อที่2 ทำให้น่าดึงดูดใจ (อยากทำ)วิธีสร้างนิสัยดี
กฏข้อที่2 ทำให้น่าดึงดูดใจ (ความปรารถนาการ) | วิธีสร้างนิสัยดี |
2.1 จับคู่การกระทำที่อยากจะทำกับการกระทำที่ต้องทำ โดยใช้เทคนิคการรวมสิ่งล่อใจ | หลังจากฉันทำ (พฤติกรรมนี้) ฉันจะทำ (สิ่งที่ต้องทำ)หลังจากฉันทำ (สิ่งที่ต้องทำ) ฉันจะ(ทำสิ่งที่อยากทำ)พอเราทำสิ่งที่ต้องทำแล้ว ก็จะทำสิ่งที่อยากทำได้ (ทำให้น่าดึงดูดใจ)เช่น ถ้าฉันดูทีวีแล้ว ฉันจะอ่านหนังสือ |
2.2 ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมที่มีพฤติกรรมอันพึงประสงค์เป็นพฤติกรรมบนนทัดฐานของสังคมนั้นๆ | ถ้าพฤติกรรมใดๆ ทำให้เราได้รับการยอมรับนับถือและยกย่องชมเชย เราจะเห็นพฤติกรรมนั้นน่าดึงดูดใจ เช่น ถ้าเราอยู่ในสถานที่ทำงานที่มีวัฒนธรรมการชมเชยความพยายาม ก็จะช่วยส่งเสริมคุณให้มีนิสัยที่ชอบพยายามนั้นเองครับ |
2.3 สร้างวิถีแห่งแรงจูงใจ | ทำอะไรก็ได้ที่รู้สึกมีความสุขได้ในทันทีก่อนจะลงมือทำพฤติกรรมยากๆเพื่อสร้างนิสัยดี |
วิธีเลิกนิสัยไม่ดี | |
2.4 ปรับทัศนคติเสียใหม่ | แทนที่คุณจะบอกตัวเองว่า ฉันต้องไปวิ่งพรุ่งนี้ ให้พูดใหม่ว่า ถึงเวลาฝึกความอดทนและทำอะไรให้รวดเร็วแล้ว แค่ปรับทัศนคติก็มีผลต่อการลงมือทำแล้วครับเน้นประโยชน์ที่ได้จากการเลิกนิสัยไม่ดีถ้าคุณเลิกนิสัยไม่ดีบางอย่างได้ ผลที่ได้คืออะไรครับ? |
กฏข้อที่3 ทำให้เป็นเรื่องง่าย
กฏข้อที่3 ทำให้เป็นเรื่องง่าย | วิธีสร้างนิสัยดี |
3.1 ลดอุปสรรคหรือแรงต้าน โดยลดเรื่องยุ่งยากที่จะนำไปสู่นิสัยดีๆ | ถ้าคุณตั้งเป้าหมายของคุณคือการซิตอัป 100 ครั้งต่อวันซึ่งมันต้องใช้พลังงานอย่างมาก ในตอนเริ่มต้นคุณอาจมีแรงจูงใจและรู้สึกตื่นเต้น คุณอาจรวบรวมพลังที่จะลุยทำ แต่เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก ความพยายามเหล่านั้นก็จะกลายเป็นความเหนื่อยล้า ในขณะเดียวกันเมื่อเทียบกับการซิตอับแค่ 1ครั้งต่อวัน โดยทำอย่างต่อเนื่องนั้น แทบไม่ต้องใช้พลังอะไรมากมายในการเริ่มต้นเลย ยิ่งนิสัยใดๆใช้พลังงานน้อยเท่าไหร นิสัยนั้นๆก็ยิ่งมีแนวโน้มจะเกิดได้ง่ายขึ้น → เวลาผมคิดว่าจะสรุปหนังสือสักเล่ม พอนึกถึงเนื้อหาที่ต้องเขียนแล้วก็รู้สึกไม่อยากทำขึ้นมา แต่พอคิดว่า แค่เขียนสัก1บรรทัด (ทำให้เป็นเรื่องง่าย) ก็พอ ผมก็เริ่มเขียนมากขึ้นเรื่อยๆจนเป็นนิสัยครับตั้งเป้าหมายง่ายๆไว้ เน้นเพื่อให้เราลงมือทำก่อน แล้วพอเป็นนิสัยเราจะทำได้นานขึ้นครับ |
3.2สร้างสิ่งแวดล้อม โดยจัดสภาพแวดล้อมเพื่อช่วยให้เกิดพฤติกรรมที่พึงประสงค์ในอนาคตง่ายขึ้น | ต้องการวาดรูปมากขึ้นใช่ไหม ให้วางดินสอ ปากกา สมุดและอุปกรณ์วาดภาพไว้บนโต๊ะตำแหน่งที่หยิบใช้ได้ง่าย ต้องการออกกำลังกายหรือครับ ให้จัดเตรียมชุดออกกำลังกาย รองเท้าผ้าใบ กระเป๋าใส่สัมภาระและขวดน้ำดื่มไว้ล่วงหน้า → ผมชอบที่จะวางหนังไว้หัวเตียงก่อนนอนเสมอ พอตื่นมาก็ง่ายต่อการหยิบมาอ่านทันทีครับ(ทำให้เป็นเรื่องง่าย) |
3.3 ทำให้เกิดช่วงเวลาแห่งการตัดสินใจ | ในทุกๆวันมีโอกาสที่จะเป็นช่วงเวลาแห่งการตัดสินใจของคุณ เช่น ถ้าคุณเดินเข้าไปร้านอาหาร จะเป็นการกำหนดได้ว่าคุณจะสั่งอะไรกิน (คุณสั่งได้เฉพาะที่อยู่ในเมนู) พาตัวคุณไปอยู่ในช่วงเวลาแห่งการตัดสินใจที่จะเสริมนิสัยที่ดีของคุณครับโดยตัดสินใจเริ่มทำในสิ่งเล็กๆที่สามารถทำให้เกิดผลอันยิ่งใหญ่ขึ้นภายหลัง |
3.4 ใช้กฏ2นาที | เมื่อคุณฝันถึงการส้รางความเปลื่ยนแปลงอะไรสักอย่าง ความตื่นเต้นก็จะเข้ามาครอบงำ และจบลงด้วยการพยายามมากเกินไปและรวดเร็วเกินไปการสร้างนิสัยใหม่นั้นไม่ควรให้มันท้าทายเกินไป ใช้กฏ2นาที เพื่อให้ง่ายต่อการลงมือทำ ที่จะไปสู่การทำต่อเนื่องระยายาว เช่น อ่านหนังสือก่อนเข้านอน เปลี่ยนเป็น อ่านหนังสือ 1หน้า วิ่ง3กิโลเมตร เปลี่ยนเป็น ผูกเชือกรองเท้าวิ่ง ฝึกพฤติกรรมอันพึงประสงค์จนทำได้สำเร็จภายใน 2 นาทีหรือน้อยกว่านั้น สิ่งที่เกิดขึ้นใน2นาทีแรกควรทำให้ง่ายดายนี่จะนำคุณไปสู่ ประตูแห่งการเริ่มต้นสร้างนิสัย |
3.5 ทำให้พฤติกรรมอันพึงประสงค์เป็นไปอย่างอัตโนมัติลงทุนในเทคโนโลยีและการจ่ายเพียงครั้งเดียวที่ช่วยทำให้เกิดพฤติกรรมที่พึงประสงค์ได้ในอนาคต | การใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับพฤติกรรมที่เกิดขึ้นบ่อยจนกลายเป็นนิสัย เช่น ใช้ระบบตัดเงินจากบัญชีเงินเดือนอัตโนมัติเพื่อการเกษียณ ใช้ website blocker ช่วยบล๊อกสื่อสังคมออนไลน์ |
วิธีเลิกนิสัยไม่ดี | |
3.6 เพิ่มอุปสรรคและแรงต้าน โดยเพิ่มเรื่องยุ่งยากที่จะนำไปสู่นิสัยไม่ดี | ตรงข้ามกับข้อ3.1 เช่น ถ้าตอนเช้าไม่อยากลุกจากที่นอน ก็ให้วางนาฬิกาปลุกไว้ไกลๆ(เพิ่มอุปสรรคให้นิสัยไม่ดี)ครับ |
3.7 ใช้แผนสร้างข้อผูกมัด | จำกัดทางเลือกลงให้เหลือแค่ทางเลือกที่จะเน้นประโยชน์ต่อตัวคุณจริงๆในอนาคต ไปในที่ๆคุณจะต้องเลือกในสิ่งที่ดีสำหรับคุณ |
กฏข้อที่4 ทำให้น่าพึงพอใจ | วิธีสร้างนิสัยดี |
4.1 ใช้ตัวเสริมแรง โดยให้รางวัลกับตัวเองในทันทีเมื่อทำเรื่องดีๆสำเร็จ | สิ่งใดที่ได้รับรางวัลในทันที จะถูกทำต่อเลือกรางวัลที่สอดคล้องกับเป้าหมายของคุณเช่น เลือกรางวัลให้ตัวเองเป็นการเข้าคอร์สนวดตัว เมื่อออกกำลังกายแล้ว |
4.2 ทำให้ การไม่ทำอะไรเลย เป็นเรื่องน่าพอใจ | เมื่อไรที่หลีกเลี่ยงทำพฤติกรรมแย่ๆได้ ให้มองว่าเป็นเรื่องดี |
4.3 ใช้วิธีการติดตามผลของนิสัย | รูปแบบการติดตามผลที่ง่ายที่สุดคือ การกากบาทบนปฏิทินในแต่ละวันที่คุณได้ทำกิจวัตร (นี่ทำให้คุณเห็นผลลัพท์จนเป็นที่พอใจ) จงทำให้พฤติกรรมฝึกนิสัยนั้นเป็นไปตามแนวทางที่วางไว้ และ จงอย่าแหกกฏ |
4.4อย่าพลาดเป็นครั้งที่สอง | ถ้าคุณลืมในครั้งแรก ต้องมั่นใจว่าจะดึงตัวเองกลับมาในทันที พยายามเตือนตัวเองด้วยกฏง่ายๆว่า อย่าหยุดทำเป็นครั้งที่สอง การพลาดครั้งแรกไม่ได้ทำลายคุณหรอก แต่เป็นวงจรของความพลาดซ้ำๆครั้งที่ตามๆมาต่างหาก |
วิธีเลิกนิสยที่ไม่ดี | |
4.5 ใช้พยานบุคคลช่วยควบคุมพฤติกรรม ขอให้เขาคอยสังเกตการปฏิบัติตัวของคุณ | พยานบุคคลที่ช่วยควบคุมพฤติกรรมสามารถสร้างผลกระทบได้ในทันทีถ้าเราไม่ทำพฤติกรรมตามข้อตกลง |
4.6 ทำพันธสัญญาสร้างนิสัย | เช่น สัญญากับเพื่อนว่า ถ้าฉันทำไม่ได้ ฉันจะออกค่าอาหารทำให้บทเรียนจากพฤติกรรมที่ไม่ดีเป็นที่รับรู้กัน และมีบทลงโทษที่ทำให้คุณรู้สึกเจ็บปวดพฤติกรรมใดๆจะเป็นเรื่องง่ายถ้าเห็นชัดเจนน่าดึงดูดใจเป็นเรื่องง่าย น่าพึงพอใจ พฤติกรรมใดๆจะเป็นเรื่องยากถ้ามองไม่เห็น ไม่น่าดึงดูดใจ เป็นเรื่องยาก ไม่น่าพึงพอใจ |
สรุป atomic habit (อีกครั้ง)
→ นิสัยคือดอกเบี้ยที่สะสมจากการพัฒนาตนเอง สร้างนิสัยให้ดีขึ้นวันละ1เปอร์เซนต์ มีผลต่อผลลัพท์อันยิ่งใหญ่ระยะยางในอนาคต
→ การเปลื่ยนแปลงพฤติกรรม ต้องเริ่มจาก
ความเชื่อ → กระบวนการ → ผลลัพท์
มีกฏง่ายๆที่ถ้าทำแล้ว คุณก็สามารถสร้างนิสัยที่ดี นั้นคือ
- ทำให้ชัดเจน (เห็นได้ชัด)
- ทำให้น่าดึงดูดใจ (อยากทำ)
- ทำให้เป็นเรื่องง่าย (ง่ายอยากทำต่อ)
- ทำให้น่าพึงพอใจ (เห็นผลลัพท์)
และเลิกนิสัยที่แย่ได้
- ทำให้ไม่ชัดเจน (เห็นไม่ชัด)
- ทำให้ไม่น่าดึงดูดใจ (ไม่อยากทำ)
- ทำให้ไม่เป็นเรื่องง่าย (ยากไม่อยากทำต่อ)
- ทำให้ไม่น่าพึงพอใจ (ไม่เห็นผลลัพท์)
สุดท้าย
หนังสือ atomic habit เพราะชีวิตดีได้กว่าที่เป็น เล่มนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ ผมเขียนบทความบนเว็บไซต์แรกอย่างต่อเนื่องกว่า 300บทความ
หลังจากนี้ถ้าจะเริ่มทำอะไรอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ก็จะเอาเทคนิคเหล่านี้มาใช้ครับ
แล้วเพื่อนๆล่ะ? จะเอาเทคนิคเหล่านี้ไปสร้างนิสัยที่ดี และเลิกนิสัยที่ไม่ดีได้อย่างไรบ้างครับ?