อยากโน้มน้าวใจคน ทำอย่างไรดี วิธี กลยุทธ์การโน้มน้าวใจ อะไรบ้าง มีตัวอย่างไหม หนังสือ กลยุทธ์โน้มน้าวและจูงใจคนมีคำตอบ
สวัสดีครับ ผม จี้ ในบทความนี้ จะมาเสนอ 6 กลยุทธ์โน้มน้าวและจูงใจคน จากหนังสือ The influence
เป็นหนังสือที่นำเสนอ หลักการ โน้มน้าวใจคน ทั้งจากงานวิจัยและประสบการณ์ของผู้เขียน ดร.โรเบิร์ต ชาลดินี นักจิทวิทยาผู้เชี่ยวชาญทางศาสตร์แห่งการโน้มน้าว จูงใจ และการเจรจาต่อรอง ซึ่งเป็นที่ยอมรับระดับนานาชาติ
เหมาะกับคนที่
→ สนใจวิธีโน้มน้าวใจคน
→ จิตวิทยามนุษย์
อ่านแล้วได้อะไร
→ วิธีจูงใจคน
→ เข้าใจหลักการการโน้มน้าวใจ
กลยุทธ์การโน้มน้าวใจ
อาวุธของการโน้มน้าว
สิ่งมีชีวิต รวมถึงมนุษย์ มีเทปอัตโนมัติ ที่พร้อมจะเล่นเมื่อมีสิ่งกระตุ้นมัน
ยกตัวอย่าง
แม่ไก่ง่วง จะเข้าไปดูแลลูกของมัน ต่อเมื่อได้ยินเสียง จิ๊บ จิ๊บ เท่านั้น หากลูกตัวไหนไม่สามารถร้อง จิ๊บ จิ๊บ ได้ มันก็จะไม่ได้รับการดูแล
เสียง จิ๊บ จิ๊บ เปรียบเสมือน เทปอัตโนมัติ ที่เริ่มเล่นเมื่อมีสิ่งกระตุ้น ซึ่งจะทำให้เราแสดงพฤติกรรมออกมา
ในมนุษย์ เช่น
→ เมื่อเห็นของแพง จะคิดว่า ดี
→ ถ้าซื้อของแพงก่อน ของที่ถูกลงมา จะดูถูกยิ่งขึ้น
นี้คือตัวอย่างของสิ่งที่เรียกว่า เทปอัตโนมัติ ซึ่งในหนังสือจะมี 6 กลยุทธ์การโน้มน้าวใจ
ที่ทำให้ เทปอัตโนมัติของมนุษย์เราเล่น
1. ใช้การตอบแทน
เมื่อมีใครทำอะไร หรือ ให้อะไรกับเรา ทำให้เกิดความรู้สึกโดยธรรมชาติว่าเป็นภาระหน้าที่ที่ต้องตอบแทนในอนาคต
กฏบอกไว้ว่าจะมีบทลงโทษทางสังคม และการดูถูกอย่างไรกับคนที่ฝ่าฝืน โดยเฉพาะคนที่ชอบรับแต่ไม่พยายให้กลับคืน
ฉนั้นเราจึงพยายามหลีกเลี่ยงบทลงโทษเหล่านี้ โดยการตอบแทนกลับไป
ในอดีต บรรพบุรุษของเราเรียนรู้ที่จะแบ่งปันอาหารและความชำนาญของพวกเขา โดยใช้ระบบหนี้บุญคุณ(การให้ และ การตอบแทน)
ตัวอย่าง
→ การที่คนหนึ่ง ให้ดอกไม้ กับคนที่เดินผ่านโดยไม่รับคืน (การให้)เพื่อเรียกเงินบริจาค(การตอบแทน)
→ การขอยืมเงิน 1000บาท แต่จริงๆต้องการยืม100บาท เมื่อไม่ได้ 1000บาท ก็ยอมอ่อนข้อให้(การให้) อีกฝ่ายจึงตอบแทบโดยการอ่อนข้อให้ยืม(ให้กลับ) 100บาท
→ การที่โรงเรียนสอนภาษามีการเปิดให้ทดลองเรียนฟรี(การให้)
→ การให้สินค้าไปทดลองใช้ที่บ้าน
→ การซื้อของมาฝากเพื่อนบ้าน
2. ใช้ความรับผิดชอบและความสม่ำเสมอ
การยึดมั่น รับผิดชอบและความสม่ำเสมอ แสดงถึง ความมั่นคง ซื้อสัตย์ มีเหตุผล
และทำให้เราไม่ต้องคิดมากเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆอีกต่อไป
การไม่ยึดมั่น รับผิดชอบและสม่ำเสมอ ถูกมองเป็นอุปนิสัยที่ไม่น่าปรารถนา โลเล สับสน สองหน้า
เมื่อเราตัดสินใจอะไรไปแล้ว เรามักจะโน้มน้าวใจตัวเองให้ทำมันต่อไป
ตัวอย่าง
→ การที่นักพนันตัดสินใจลงพนันไปแล้ว มักมีแนวโน้มจะจูงใจตัวเองให้เชื่อมั่นกับการตัดสินใจนั้น(ยึดมั่น)
→ การที่พ่อแม่ ให้คำมั่นว่าจะซื้อของเล่นให้ลูก
→ การถามว่าอีกฝ่ายจะไปเลือกตั้งไหม (ยืนยันคำมั่น)
→ การให้คำมั่นสัญญากับใครบางคน
3.ใช้ข้อพิสูจน์ทางสังคม
วิธีหนึ่งที่เราใช้เพื่อตัดสินว่าสิ่งใดถูก ก็คือ การค้นหาสิ่งที่ผู้อื่นคิดว่า ถูก
เรามักจะสังเกตุสิ่งที่คนส่วนใหญ่ทำ และทำตาม เพราะคิดว่าอะไรที่คนส่วนใหญ่ทำเป็นสิ่งที่ถูก
เราจะทำผิดพลาดน้องลง ด้วยการทำตามสังคม มากกว่าขัดแย้งกับมัน
เมื่อคนส่วนใหญ่นิยมทำอะไรบางอย่าง มันจะเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
หลักการนี้ทำงานได้อย่างมีพลังที่สุด เมื่อเราสังเกตุพฤติกรรมของผู้คนที่เหมือนเรา
ตัวอย่าง
→ เสียงหัวเราะในรายการตลก (ข้อพิสูจน์ทางสังคม)
→ การโฆษณา/พูด ให้เห็นว่าคนทั่วไปเขาก็ใช้กัน
→ การขาย โดยแสดงภาพคนที่ใช้ให้ลูกค้าดู(ข้อพิสูจน์ทางสังคม)
→ ป้าย ขายดีที่สุด(คนส่วนใหญ่เขาก็ซื้อกัน)
4.ใช้ความชอบ
เราชอบที่ตอบตกลงกับผู้ขอที่เรารู้จักและชอบพอที่สุด
คนหน้าตาดี มีข้อได้เปรียบในการปฏิสัมพันธ์ทางสังคม
งานวิจัยครั้งหนึ่งพบว่า หน้าตา ท่าทางที่ดีของผู้สมัคร มีผลเหนือกว่าคุณสมบัติของผู้สมัครในการได้รับการตัดสินใจจ้างงาน
เราชอบผู้คนที่เหมือนกับเรา ไม่ว่าจะเป็น บุลคลิกลักษณะ ภูมิหลัง หรือ วิธีการใช้ชีวิต
ดังนั้น โน้มน้าวด้วยการ
→ แต่งตัว (ให้น่าประทับใจ)
→ หาความเหมือน
→ ชื่นชมอีกฝ่าย(จากใจ)
5 ใช้อำนาจ
การทำตามคำสั่งผู้มีอำนาจ มีประโยชน์ในทางปฏิบัติที่แท้จริงสำหรับเรา
เช่น พ่อแม่ คุณครู ก็รู้มากกว่า ดังนั้นการทำตามคำแนะนำจึงมีประโยชน์
ส่วนหนึ่งเพราะ สติปัญญาที่มากกว่า อีกส่วนหนึ่ง เพราะ พวกเขาควบคุมรางวัลและบทลงโทษ
เราถูกโน้มน้าวโดย
→ คำนำหน้าชื่อ (เป็นสัญลักษณ์ของผู้มีอำนาจ เช่น ศาสตรจารย์)
→ เสื้อผ้า เช่น เสื้อตำรวจ เสื้อทหาร เป็นต้น
6.ใช้ความหายาก กฏจำนวนน้อย
อะไรที่มีจำนวนน้อย มักจะมีค่ามากขึ้น และทำให้มนุษย์อยากได้มันมา เช่น
→ สินค้าเหลือชิ้นสุดท้าย
→ โบสถ์ที่นานๆครั้งจะเปิดให้เข้าไปข้างใน
→ ธนบัตรที่พิมพ์ผิด
ความคิดที่อาจต้องสูญเสียก็มีบทบาทใหญ่ ในการตัดสินใจของมนุษย์
คนเราจะถูกจูงใจ โดยความคิดของการสูญเสียบางสิ่ง มากกว่า ความคิดของการได้บางสิ่งที่มูลค่า เท่ากันมา
เช่น ถ้าพนันระหว่าง ทายถูกจะได้1000 บาท ทายผิดจะเสีย1000 บาท คนเรามักจะไม่พนันเพราะกลัวเสีย 1000บาท มากกว่า การได้1000บาท
การโน้มน้าว
→ วันนี้เท่านั้น (กลัวพลาดโอกาส)
→ โทรด่วนตอนนี้ 30ท่านเท่านั้น
→ มีจำนวนจำกัด
สุดท้าย
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับ 6 กลยุทธ์การโน้มน้าวใจ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ในงาน และชีวิตของทุกท่านครับ
ยังมีเนื้อหาอีกมากที่ผมไม่นำมาพูดถึง ซึ่งอยู่ในหนังสือ กลยุทธ์การโน้มน้าวและจูงใจคน influence