“อยากเป็นคนร่ำรวย” “อยากประสบความสำเร็จอย่างเศรษฐี” ทำอย่างไรดี สิบเสาหลักแห่งความร่ำรวย The 10 pillars of wealth มีคำตอบ
สวัสดีครับ ในบทความนี้ผมจะมารีวิว หนังสือ สิบเสาหลักแห่งความร่ำรวย The 10 pillars of wealth
โดย อเล็ก เบรกเกอร์ มหาเศรษฐีเจ้าของกิจการด้านเทคโนโลยี เริ่มต้นมาจากหลากหลายบริษัทซอฟต์แวร์ในโลกออนไลน์ และเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท Market Hero บริษัทซอฟแวร์เพิ่มประสิทธิภาพการตลาด
โดยตัวหนังสือจะเสนอวิธีสร้างความร่ำรวย อิสรภาพทางการเงิน ด้วยความเชื่อ ความเข้าใจและมุมมองทางความคิดไว้คอยเสริมที่เรียกกันว่า “เสาหลัก”
ซึ่งก็คือ เสาหลัก 10ต้น ที่คุณต้องมีเพื่อสร้างความร่ำรวย ขาดต้นใดต้นหนึ่งไปไม่ได้
เหมาะกับคนที่
→ อยากเป็นคนรวย
→ อยากพัฒนาวิธีคิดแบบคนรวย
→ หาความรู้การทำธุรกิจ
อ่านแล้วได้อะไร
→ วิธีคิดแบบคนรวย
→ ขั้นตอนปฏิบัติสู่การสร้างรายได้
เนื้อหาโดยสังเขป
เสาหลักต้นที่1 เลิกคิดแบบหวังรวยในภายภาคหน้า
→ การทำงานประจำเพื่อหวังเกษียณในยามชรา ระหว่างทางมีความเสี่ยงมากมาย (บริษัทอาจปิด โดนเลิกจ้างงาน เศรษฐกิจไม่ดี เป็นต้น)
→ สร้างความร่ำรวยให้เร็ว ด้วยการ ทำธุรกิจ ลงทุน ลองผิดลองถูก ถึงแม้จะเสี่ยงในระยะสั้น ถ้าทำถูกสักข้อ1 คุณก็รวยได้
→ ผู้เขียน ใช้เวลา2ปี ในการมีเงินมากกว่า คนเกษียณ
เสาหลักต้นที่2 แยกเรื่องเวลากับการหาเงินออกจากกัน
→ ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาแลกกับเงินอย่างเดียว (active income)
→ สร้างเครื่องจักรที่ทำงานแทนคุณ(passive income)
→ จ้างคนมาทำงานแทนคุณ
เสาหลักต้นที่3 ยอมรับว่าคุณจะต้องดีกว่าคนอื่นให้ได้
→ ถ้าคุณอยากจะร่ำรวย คุณต้องเชื่อว่าคุณดีกว่าคนอื่น (ไม่ใช่ด้วยความหยิ่งยโส แต่คือความมั่นใจ)
→ เช่น ฉันหาเงินเก่งกว่าคนอื่น
เสาหลักต้นที่4 จงรู้ไว้ว่าคุณคือคนที่ต้องรับผิดชอบความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆทุกอย่าง
→ ถ้าลูกจ้างเราทำผิด เราก็มีส่วนรับผิดชอบ
→ วิธีนี้จะช่วยให้เรารอบคอบมากขึ้น
→ หยุดโทษคนอื่น
เสาหลักต้นที่5 มีหลักคิดที่เชื่อว่าโลกเรามีสิ่งต่างๆอยู่อย่างเหลือเฟือ
→ เชื่อว่าเงินมีมากมายมหาศาล ดังนั้นคุณจึงไม่ต้องตระหนี่กับค่าใช้จ่ายที่จำเป็น
→ แทนที่จะโฟกัสเรื่องค่าใช้จ่าย โฟกัสไปที่การหาเงินที่มีอยู่มากมาย
เสาหลักกต้นที่6 เลิกคิดถึงปัญหาแบบ “แล้วถ้า” แล้วหันมาใส่ใจกับปัญหาแบบ “แล้วไงดี”
→ หาวิธีแก้ปัญหาในปัจจุบันตรงหน้า(แล้วไงดี) หยุดคิดถึงปัญหาอาจเกิดในอนาคต(แล้วถ้า)
→ ใช้ “แล้วถ้า” กับปัญหาที่ใหญ่กว่า เช่น แล้วถ้าฉันไม่ได้ทำมัน ฉันจะเสียใจตอนแก่ไหม เพื่อกระตุ้นให้ลงมือทำ
→ ไม่จำเป็นต้องพร้อมสมบูรณ์แบบจึงลงมือทำ แต่ให้ลงมือทำและเรียนรู้กับมัน
เสาหลักต้นที่7 วางแผนดำเนินงานที่ทำให้เป้าหมายสัมฤทธิ์ผลได้อย่างละเอียดลออ
→ ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน (สิ่งที่ต้องการ มันมีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร ถ้าทำสำเร็จจะรู้สึกอย่างไร เป็นต้น)
→ เขียนขั้นตอนปฏิบัติเพื่อให้ไปถึงเป้าหมาย
เสาหลักต้นที่8 สนใจแต่งานที่ทำแล้วได้สตางค์เท่านั้น
→ โฟกัสงานที่ทำแล้ว ได้ผลลัพท์มาเป็นตัวเงิน
→ ระหว่างเรียนเยอะๆ (ไม่ได้เงิน) กับ ลงมือออกไปขายและเรียนรู้ (ได้เงิน) ก็ควรโฟกัสอันหลังก่อน
→ จ้างคนอื่นมาทำส่วนเสริมที่ไม่ได้ทำเงิน (เช่น สร้างเว็บไซต์ ทำการตลาด) และให้ตัวเราไปโฟกัสที่การขายซึ่งสร้างเงิน
เสาหลักต้นที่9 คนเราจะจ่ายเงินให้กับคนที่อ่านใจคนออก
→ ศึกษาเรื่องคน เพราะ ถ้าเราเข้าใจคน เราจะทำให้คนอื่นจ่ายเงินให้กับเราได้
→ เรียนรู้วิธีการขาย
เสาหลักต้นที่10 มองหาเพื่อนเอาไว้เป็นคู่แข่งและหาพี่เลี้ยง
→ อยู่ในหมู่ที่มีความคิด(แบบคนรวย) เหมือนกัน
→ หาเพื่อนที่ประสบความสำเร็จไว้เป็นคู่แข่งเพื่อการเรียนรู้
→ หาพี่เลี้ยง(คนที่ประสบความสำเร็จในสิ่งที่คุณอยากทำแล้ว) เพราะ เขาจะรู้ว่าคุณจะต้องเจอกับปัญหาในเรื่องอะไรบ้าง และคนเหล่านี้ยังรู้หนทางที่จะช่วยให้คุณเป็นยอดฝีมืออย่างรวดเร็วอีกด้วย
ความคิดเห็นส่วนตัว
→ ถ้าใครเคยอ่านหนังสือ เกี่ยวกับ วิธีคิดแบบคนรวย เช่น พ่อรวยสอนลูก และอื่นๆ มาบ้างแล้ว
ก็จะพบว่าบางเนื้อหามีส่วนที่ตรงกัน เช่น เรื่อง passive income การจ้างคนให้มาทำงานแทนเรา
ผมคิดว่าจะช่วยเสริมความเข้าใจเรื่องนั้นๆให้แน่นขึ้น
→ ผมชอบวิธีเล่าเรื่องของผู้แต่งที่ใช้ภาษาที่ตรงไปตรงมา เหมือนเรานั่งคุยกับเขาจริงๆ ทำให้รู้สึกอินกับเนื้อหา
→ มีการเปรียบเทียบ ตัวอย่างสุดโต่ง เห็นภาพชัด (บางตัวอย่างยาว)
→ อ่านแล้วรู้สึกมีแรงบันดาลใจ และทำให้ผมเชื่อว่า เราจะร่ำรวยได้จริงๆ ครับ
สุดท้าย
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับ รีวิว สิบเสาหลักแห่งความร่ำรวย หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยครับ
สนใจหนังสือ → สิบเสาหลักแห่งความร่ำรวย THE 10 PILLARS OF WEALTH